เมื่อพูดถึง “มะเร็ง” หลายคนอาจนึกถึงโรคที่ไกลตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว มะเร็งเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย และหนึ่งในชนิดของมะเร็งที่อันตรายและพบได้บ่อย คือ “มะเร็งปอด” ซึ่งเป็นภัยเงียบที่สามารถคืบคลานเข้าสู่ชีวิตโดยที่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว จนกว่าจะเข้าสู่ระยะที่รักษายากแล้ว
มะเร็งปอดคืออะไร?
มะเร็งปอดคือโรคที่เกิดจากเซลล์ในปอดมีการเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตผิดปกติจนควบคุมไม่ได้ กลายเป็นเนื้อร้ายที่สามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นของร่างกายได้ เช่น สมอง ตับ หรือกระดูก มะเร็งชนิดนี้แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ
- มะเร็งปอดชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก (Non-small cell lung cancer) — พบได้ประมาณ 80-85% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดทั้งหมด
- มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (Small cell lung cancer) — มีความรุนแรงและแพร่กระจายได้เร็ว
สาเหตุของมะเร็งปอด
สาเหตุหลักของมะเร็งปอดคือการสูบบุหรี่ ซึ่งรวมถึงการสูดควันบุหรี่มือสองด้วย บุหรี่เต็มไปด้วยสารพิษและสารก่อมะเร็งมากมาย การสูบบุหรี่เป็นเวลานานสามารถทำลายเซลล์ในปอดและก่อให้เกิดมะเร็งได้
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ก็ยังมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดได้ จากปัจจัยอื่นๆ เช่น
- มลพิษทางอากาศ เช่น ควันจากรถยนต์ โรงงาน หรือฝุ่น PM2.5
- การได้รับสารเคมี เช่น แร่ใยหิน หรือเรดอน
- พันธุกรรม หรือประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคนี้
- การสัมผัสควันไฟบ่อยๆ เช่น พ่อครัวที่ทำอาหารด้วยเตาถ่าน
อาการของมะเร็งปอด
ปัญหาของมะเร็งปอดคือในระยะเริ่มต้นมักไม่แสดงอาการชัดเจน ทำให้ผู้ป่วยไม่รู้ว่าตนเองกำลังป่วย เมื่อเริ่มมีอาการแล้วก็มักเข้าสู่ระยะที่ลุกลาม ซึ่งรวมถึง:
- ไอเรื้อรังไม่หาย
- ไอมีเลือดปน
- หายใจลำบาก หรือหอบเหนื่อยง่าย
- เจ็บหน้าอก
- น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
- เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
- เสียงแหบ หรือเจ็บคอเรื้อรัง
หากพบอาการเหล่านี้ต่อเนื่อง ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
การตรวจวินิจฉัย
แพทย์อาจใช้หลายวิธีร่วมกันในการวินิจฉัยมะเร็งปอด เช่น
- เอกซเรย์ปอด (Chest X-ray)
- เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan)
- ตรวจเสมหะ
- ส่องกล้องตรวจหลอดลม
- เจาะชิ้นเนื้อ (Biopsy)
- ตรวจสารพันธุกรรมของเซลล์มะเร็งเพื่อหาทางรักษาที่เหมาะสม
การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกจะเพิ่มโอกาสในการรักษาและมีชีวิตรอดสูงขึ้น
แนวทางการรักษา
การรักษามะเร็งปอดขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ระยะของโรค สุขภาพของผู้ป่วย และปัจจัยอื่นๆ การรักษาอาจประกอบด้วย:
- การผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออก (ใช้ได้กับระยะแรก)
- การใช้รังสีรักษา (Radiation Therapy)
- เคมีบำบัด (Chemotherapy)
- การรักษาแบบมุ่งเป้า (Targeted Therapy)
- ภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy)
ในบางกรณีอาจใช้หลายวิธีร่วมกัน เพื่อเพิ่มโอกาสในการควบคุมโรค
การป้องกันมะเร็งปอด
แม้มะเร็งปอดจะดูเป็นโรคร้ายแรง แต่สามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง เช่น
- งดสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่จากผู้อื่น
- หลีกเลี่ยงพื้นที่มีมลพิษทางอากาศสูง
- สวมหน้ากากอนามัยในที่ที่มีฝุ่นควัน
- ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะหากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- ลดความเครียด และพักผ่อนให้เพียงพอ
ความหวังของผู้ป่วยมะเร็งปอดในปัจจุบัน
ในอดีต ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งปอดมักมีโอกาสรอดต่ำ แต่ปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า เช่น การตรวจแบบเจาะลึกทางพันธุกรรม หรือการใช้ยาที่ออกแบบเฉพาะกับชนิดของมะเร็ง ทำให้ผู้ป่วยมีทางเลือกมากขึ้น และสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีหลายองค์กรและกลุ่มสนับสนุนผู้ป่วยที่ช่วยให้เกิดกำลังใจ เช่น กลุ่มผู้ป่วยมะเร็ง กลุ่มผู้เลิกบุหรี่ หรือการให้คำปรึกษาออนไลน์
สรุป: อย่ารอให้สายเกินไป
มะเร็งปอดเป็นภัยร้ายที่คุกคามชีวิตของคนจำนวนมากในทุกปี แต่ก็เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ ถ้าเราดูแลสุขภาพ หลีกเลี่ยงความเสี่ยง และตรวจร่างกายเป็นประจำ
การใส่ใจตั้งแต่วันนี้อาจเป็นการช่วยชีวิตตัวคุณเอง หรือคนที่คุณรัก อย่าปล่อยให้มะเร็งปอดกลายเป็นผู้ร้ายที่ซ่อนตัวเงียบๆ ในร่างกายเราโดยไม่รู้ตัว